ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
เด็กนร. ป.3 ตีกันถึงตาย โรงเรียนไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้เด็กนอนในห้องพยาบาลเป็นวัน ทั้งอาเจียนท่วมเตียง ซ้ำ ยังปิดข่าวเงียบ พ่อแม่วิ่งโร่ฟ้อง‘ครูหยุย’

ความรุนแรงในวัยเด็กปะทุออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนักเรียนโรงเรียนปากพนังใช้ปืนยิงเพื่อนหน้าเสาธงโรงเรียน และต่อมานักเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการใช้ปืนยิงแฟนสาวและญาติเสียชีวิต ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ที่รัฐสภา นางนพวัลย์ โพธิ์สวัสดิ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/112 หมู่บ้านสายทิพย์ ม.3 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.

พร้อมด้วยญาติจำนวนหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กทม. ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ ว่า ด.ช.วรเมธ โพธิ์สวัสดิ์ หรือน้องพอล อายุ 8 ขวบ บุตรชาย อยู่ชั้นป.3/5 โรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย เขตดอนเมือง กทม. ถูกเพื่อนต่างห้องรุมทำร้าย โดยใช้ไม้ตีที่บริเวณท้าทอยจนสลบ ต้องหามส่งโรงพยาบาลภูมิพล เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 มิ.ย. ขณะนี้อาการสาหัส ยังไม่ได้สติ ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู

นางนพวัลย์ กล่าวว่า เป็นครูโรงเรียนเดียวกันกับที่ลูกชายเรียนอยู่ โดยสอนแผนกอนุบาล ในวันเกิดเหตุลูกชายเดินทางไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ช่วงบ่ายทางโรงเรียนติดต่อมาว่าลูกไม่สบาย ให้ไปรับตัว เมื่อไปถึงเห็นลูกนอนขดตัว และอาเจียนออกมาเป็นของเหลวสีเหลืองรดพื้น ตอนนั้นน้องพอล ยังมีสติอยู่ บอกว่าเดินไม่ไหว ระหว่างทางมีเด็กที่โรงเรียนบอกว่าน้องพอลถูกตี แต่ไม่ได้สนใจ เพราะจะรีบนำลูกส่งโรงพยาบาล

แต่ปรากฏว่า ทางโรงเรียนไม่ยอม อ้างว่าโรงเรียนยังไม่เลิก หากจะรับตัวเด็กออก ต้องได้รับอนุญาตก่อน จึงทำเรื่องตามระเบียบใช้เวลานานมาก กว่าจะออกใบอนุญาตให้ ระหว่างนั้นลูกชายเริ่มมีอาการชักเป็นระยะ แต่ช่วงที่อยู่ในรถก็ชักถี่ขึ้นและอาเจียนเป็นเลือดออกมาไม่ขาดช่วง

เข้าใจว่าคงเพราะอาหารเป็นพิษ แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หลังจากแพทย์ตรวจร่างกายของลูกอย่างละเอียด บอกว่าไม่ใช่อาการของอาหารเป็นพิษ แต่น่าเกิดจากถูกของแข็งกระแทกอย่างแรงบริเวณท้ายทอย พร้อมกับแนะนำให้ไปสอบถามกับโรงเรียนว่า ลูกไปโดนอะไรมาแน่

นางนพวัลย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง สอบถามครูประจำชั้นบอกว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่ระหว่างนั้นเพื่อนๆ ของลูกวิ่งเข้ามาบอกว่า น้องพอล ถูกเพื่อนห้อง ป.3/7 ยกพวกมาตี จึงไปถามเด็กนักเรียนชั้นดังกล่าว ได้ความว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่เด็กที่ตีน้องพอลกลับบ้านไปแล้ว จึงไปที่โรงพยาบาลเพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังแพทย์ฟัง แต่หมอบอกว่าต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ รุ่งขึ้นจึงพาหมอไปที่โรงเรียนด้วยกัน แต่ทางโรงเรียนกลับบอกว่าไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ และไม่ทราบว่าน้องพอลถูกรุมทำร้ายด้วย

“แต่นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า เด็กชาย ชั้นป. 3/7 ชอบมาจีบและแซว ห้องป.3/5 ที่น้องพอลเป็นหัวหน้าห้องอยู่ วันเกิดเหตุน้องพอล พยายามแสดงความเป็นผู้นำ ด้วยการปกป้องเพื่อนหญิงที่ถูกแซว ทำให้เพื่อนต่างห้องไม่พอใจ ยกพวกมารุมตีจนล้มไปกองกับพื้น” แม่น้องพอล กล่าว

นางนพวัลย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาได้รับการติดต่อจากแพทย์ว่า หลังจากตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าอาการของน้องพอล สาหัสมาก เนื่องจากมีเลือดคั่งในสมอง ความยาว 6 ซ.ม. การรักษาต้องผ่าตัดอย่างเดียว แต่โอกาสรอดมีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และหลังจากที่ผ่าตัดแล้ว หากรอดชีวิต อาจมีผลข้างเคียงด้วย เช่น ตาบอด หรือเป็นอัมพาต

ตนต้องการรักษาชีวิตลูกจึงตัดสินใจยินยอมเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัด ซึ่งหลังจากผ่าตัดแล้วน้องพอล นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ไม่รู้สึกตัว เป็นเจ้าชายนิทรา ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์เจ้าของไข้บอกว่าให้ตนทำใจ เพราะน้องพอล ไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว โดยหากถอดสายออกซิเจนก็เสียชีวิตทันที

นางนพวัลล์ กล่าว

ด้านนายธงชัย โพธิ์สวัสดิ์ อายุ 35 ปี น้องชายนางนพวัลย์ กล่าวว่า หลานชายเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีมาตลอด และมีความเป็นผู้นำ ไม่ชอบเห็นใครถูกกลั่นแกล้ง หลังเกิดเรื่องรู้สึกผิดหวังกับโรงเรียนมากที่ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ นอกจากนี้ทราบมาว่า ในโรงเรียนยังมีนักเรียนหัวโจกตั้งแก๊งรีดไถเงินค่าขนมของเด็กนักเรียนเด็กๆ ด้วย แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ยอมทำอะไร

ด้านนายวัลลภ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียน เบื้องต้นสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบและสอบถามจากโรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย ซึ่งในแผนกประถมนั้นอยู่ในสังกัดของกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลภูมิพลแล้ว โดยกำชับว่าต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หลังจากได้ข้อสรุปแล้วจะได้หามาตรการแก้ไขปัญหาต่อไป

------------------------------------------------------------------------------

เกิดอะไรขึ้น???